อังคุตตรนิกาย

8.42. วิตถตสูตร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการบุคคลเข้าอยู่แล้ว

มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก ก็อุโบสถประกอบด้วย องค์ ๘ ประการบุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มี ความแพร่หลายมาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ตระหนักชัดดังนี้ว่า พระ อรหันต์ทั้งหลายละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละปาณาติบาต งด เว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอายเอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลต่อ สรรพสัตว์ ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้ และ อุโบสถจักชื่อว่าเป็นอันเราเข้าอยู่แล้วอุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๑ นี้ ฯลฯ

อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์ทั้งหลายละการนั่ง การนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ สำเร็จ การนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้า ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้า ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย

แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักชื่อว่าเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๘ นี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่อย่างนี้แล จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก ฯ

อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก เพียงไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพระราชา เสวยราชย์ดำรงอิสรภาพและอธิปไตยในชนบทใหญ่ๆ ๑๖ รัฐ มีรัตนะ ๗ ประการมากมาย เหล่านี้ คือ อังคะ มคธะกาสี โกสละ วัชชี มัลละ เจดีย์ วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะอัสสกะ อวันตี คันธาระ กัมโพชะ การเสวยราชดำรงอิสรภาพและอธิปไตยของ พระราชานั้น ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถที่ประกอบด้วยองค์ ๘ประการ ข้อนั้นเพราะ เหตุไร เพราะราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้าเมื่อเทียบสุขอันเป็นทิพย์ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ๕๐ ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้น เป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๕๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของ เทวดาชั้นจาตุมมหาราช ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม

เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง เทวดาชั้นจาตุมมหาราช นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้าเมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๑๐๐ ปี มนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ๓๐ ราตรี โดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่งพันปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณ อายุของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ดูกรภิกษุทั้งหลายข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชาย ก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๒๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นยามา ๓๐ ราตรีโดย ราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๒,๐๐๐ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณ ของอายุเทวดาชั้นยามา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม

เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง

เทวดาชั้นยามานี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติ มนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๔๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นดุสิต ๓๐ ราตรีโดย ราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๔,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็น ประมาณอายุของเทวดาชั้นดุสิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือ ชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็น สหายแห่งเทวดาชั้นดุสิตนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๘๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นนิมมานรดี ๓๐ ราตรี โดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๘,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็น ประมาณอายุของเทวดาชั้นนิมมานรดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นหญิง หรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความ เป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้ จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๑,๖๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตามเข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึง เข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็น ทิพย์ ฯ

บุคคลไม่พึงฆ่าสัตว์ ไม่พึงถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้ พึง

เว้นจากเมถุนธรรม อันมิใช่ความประพฤติของพรหม ไม่พึง

พูดเท็จ ไม่พึงดื่มน้ำเมา ไม่พึงบริโภคอาหารในเวลาวิกาล

ในราตรี ไม่พึงทัดทรงดอกไม้และของหอม พึงนอนบน

เตียง บนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า บัณฑิต

ทั้งหลายกล่าวอุโบสถ ๘ ประการนี้แล ที่พระพุทธเจ้าผู้ถึง

ที่สุดแห่งทุกข์ทรงประกาศแล้ว พระจันทร์และพระอาทิตย์

ทั้งสองส่องแสงสว่างไสว ย่อมโคจรไปตามวีถีเพียงไร

พระจันทร์และพระอาทิตย์นั้นก็ขจัดมืดได้เพียงนั้น ลอยอยู่

บนอากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า ทรัพย์ใดอัน

มีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์

อย่างดี หรือทองมีสีสุกใส ที่เรียกกันว่า หตกะ พระจันทร์

พระอาทิตย์และทรัพย์นั้นๆ ก็ยังไม่ได้แม้เสี้ยวที่ ๑๖ แห่ง

อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือนรัศมี

พระจันทร์ ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด ฉะนั้น เพราะฉะนั้น

แหละ หญิงหรือชายผู้มีศีล เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วย

องค์ ๘ ประการแล้ว กระทำบุญทั้งหลายอันมีสุขเป็นกำไร

ไม่มีใครติเตียน ย่อมเข้าถึงสวรรค์ ฯ

จบสูตรที่ ๒